ที่เที่ยว เกียวโต ห้ามพลาด เมืองหลวงเก่ามากเสน่ห์ของญี่ปุ่น

ที่เที่ยว เกียวโต เกียวโตเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เที่ยวญี่ปุ่น นอกจากเมืองหลวงอย่างโตเกียว (Tokyo) แล้ว เกียวโตก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเพราะเต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าโบราณ ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ทำให้เกียวโต มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย

นั่นเป็นเหตุผลที่เราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ในเกียวโต ถ้าใครกำลังวางแผนอยู่ก็อย่าพลาดที่จะรวมไว้ในโปรแกรมเที่ยวของคุณ

 

ที่เที่ยว เกียวโต  ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ หรือศาลเจ้าแดง

 

 

ที่เที่ยว เกียวโต  ศาลเจ้าแดง หรือที่รู้จักกันในชื่อศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่สำคัญที่สุดในเกียวโต เป็นที่รู้จักจากประตูโทริอิหรือประตูสีแดง ต้นไม้หลายหมื่นต้นถูกปลูกไว้ด้านหลังศาลเจ้าจนกลายเป็นทางเดินข้ามภูเขาอินาริ ซึ่งผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เทพอินาริเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมถึงพืชผลทางการเกษตรต่างๆ บ่อยครั้งสุนัขจิ้งจอกยังเป็นสัตว์สังคมอีกด้วย (บางคนบอกว่ามันชอบแปลงร่างเป็นสุนัขจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกมากมาย ศาลเจ้าแห่งนี้เก่าแก่มาก โดยสร้างขึ้นก่อนการก่อตั้งเมืองเกียวโต น่าจะประมาณปีพ.ศ. 794 หรือหนึ่งพันปีที่แล้ว 

 

วัดคิโยะมิซุ หรือวัดน้ำใส (Kiyomizu-dera)

 

 

วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น มันถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 780 ซึ่งไหลผ่านน้ำธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ จึงได้ชื่อว่า “วัดน้ำใส” นอกจากนี้ยูเนสโกยังได้ขึ้นทะเบียนวัดแห่งนี้เป็นมรดกโลก ( UNESCO World Heritage Site ) สิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของวัดนี้คือโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ เสาของอาคารสูงจากพื้น 13 เมตร และมีการสร้างโถงอาคารให้ยื่นออกมาทำให้บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม พร้อมชมทัศนียภาพของเกียวโตในฤดูกาลต่างๆ นอกจากนี้ ยังเป็นจุดชมซากุระและใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงในเกียวโตอีกด้วย นอกจากนี้ อาคารไม้ของวัดคิโยมิสึยังสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว

 

วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง (Kinkakuji Temple)

 

 

วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า วัดทอง เพราะที่วัดนี้สร้างอาคารหลักสีทองเกือบทั้งหลังตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ ทำให้เกิดเงาสะท้อนบนผืนน้ำตรงหน้าจนเกิดเป็นภาพที่สวยงามซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งของเกียวโต และวัดคินคะคุจิก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับโชกุนชายหลายคนที่สร้างวัดแห่งนี้ สร้าง วัดกินคะคุจิ หรือวัดเงินด้วย

 

เมืองชนบทอาราชิยาม่า(Arashiyama)

 

 

 

อาราชิยามะ เป็นอีกพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทางตะวันตกของเกียวโต ในช่วงฤดูซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสีจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนั่งรถไฟสายโรแมนติกซากาโนะและเส้นทางที่สวยงามผ่านป่าไผ่หลังวัดเท็นริวจิ วัดอาราชิยามะที่มีชื่อเสียง

 

เมืองชนบทคิบูเนะ(Kibune)

 

 

คิบุเนะ เป็นเมืองชนบทเล็กๆ บนภูเขาทางตอนเหนือของเกียวโต มีชื่อเสียงในด้านความงามทางธรรมชาติที่ผสมผสานกับศิลปะและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ศาลเจ้าคิบุเนะที่มีชื่อเสียงก็ตั้งอยู่เช่นกัน ตามตำนานเล่าว่าเทพเจ้าเดินทางมาจากโอซาก้าด้วยเรือสีเหลือง เดินตามแม่น้ำขึ้นไปบนภูเขาทางตอนเหนือของเกียวโต และมาถึงจุดหมายปลายทางที่เมืองนี้จึงเรียกชื่อเมืองตาม ตำนาน Kibune หรือเรือเหลือง

 

ย่านฮิกาชิยาม่า(Higashiyama)

 

 

ฮิงาชิยามะ เป็นถนนช้อปปิ้งเก่าแก่ ดื่มด่ำกับบรรยากาศเก่าๆ ของเกียวโต สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขนมมากมาย ย่านนี้ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาทางตะวันออกของเกียวโต โดยเฉพาะบริเวณระหว่างวัดน้ำบริสุทธิ์ (คิโยมิสึเดระ) และ ศาลเจ้ายาซากะ (ยาซากะ) เป็นทางเดินแคบๆ สองข้างทางมีอาคารไม้แบบญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งเป็นทั้งร้านอาหารและร้านขนมท้องถิ่น ให้ความรู้สึกแบบเมืองเก่าที่ยังคงเอกลักษณ์ของเกียวโตยุคเก่า

 

วัดโคเคเดระ หรือวัดสวนมอส(Kokedera Moss Temple)

 

 

วัดโคเคเดระ หรือวัดสวนมอส ได้ชื่อมาจากการจัดสวนของวัด ซึ่งถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำเกือบหมด ตัววัดยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก UNESCO World Heritage Site อีกด้วย ต้องมีใบอนุญาตในการเยี่ยมชมวัด สามารถจองได้โดยส่งจดหมายมาที่วัด แล้วทางวัดก็ส่งนิมนต์กลับมา และนำจดหมายนี้มาเมื่อมาถึง

 

วัดซันจูซันเก็นโด หรือวัดเจ้าแม่กวนอิมพันมือ(Sanjusangendo Temple)

 

 

วัดซันจุซังเกนโด วัดซันจุซังเกนโดตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกียวโต นี้จะมีอีกชื่อหนึ่งที่คนทั่วไปรู้จัก วัดเจ้าแม่กวนอิม 1000 มือแน่นอนครับ แค่ได้ยินชื่อก็ต้องรู้ว่าไฮไลท์ของที่นี่คือเจ้าแม่กวนอิมแน่นอน ภายในวัดจะมีเจ้าแม่กวนอิมพันแขน (Senju Kannon) มากถึง 1,001 องค์ วัดนี้ถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 1164 ความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้นั้นใหญ่โตมาก ต่อมาเมื่อพบสถานที่นี้จึงได้สร้างใหม่จนสมบูรณ์ดังที่เห็นในปัจจุบัน

 

ย่านริมน้ำพอนโตโชะ(Pontocho)

 

 

ย่านริมน้ำพอนโตโชะ(Pontocho) ปงโทโจทอดยาวจากชิโจโดริไปยังซันโจโดริตามทางเดินแคบๆ ที่ขนานไปกับแม่น้ำคะ พูดได้อย่างปลอดภัยว่าไม่มีใครในเกียวโตไม่รู้จัก เพราะเป็นทั้งแหล่งกินดื่มยอดนิยมและยังเป็นที่เดินเล่นริมชายฝั่งในยามเย็นอีกด้วย หากใครอยากมาร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ แนะนำให้มาที่นี่ไม่มีพลาด เพราะมีร้านอาหาร ผับ บาร์ มากมายตลอดสองข้างทาง โดยเฉพาะ ยากิโทริ (jakitori)

อาหารปิ้งย่างแบบดั้งเดิม ร้านค้าส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงดึก มีร้านค้าไม่กี่ร้านที่เปิดในช่วงกลางวัน ซึ่งก็ไม่เลว ถ้ามาตอนกลางวันก็จะได้อารมณ์ไปอีกแบบ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดคงจะเป็นช่วงเย็นของที่นี่ ร้านค้ามากมายที่อยู่ริม แม่น้ำคาโมะ Kamogawa ตั้งอยู่ทางด้านขวาของสาย Pontocho บอกเลยว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เรียกว่าจ่ายหลักร้อยแต่ยอดวิวหลักล้าน

 

วัดเรียวอันจิ หรือวัดสวนหิน(Ryoanji Temple)

 

 

วัดเรียวอันจิ ถือเป็นวัดสมัยเฮอันที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องสวนหินที่สวยงาม เรียกได้ว่ามากที่สุดในเกียวโตและยังติดอันดับต้น ๆ ในญี่ปุ่นอีกด้วย ด้วยความนิยมทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางรายวันสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เครื่องประดับหินเองไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่ด้วยเอกลักษณ์ของการออกแบบสวนแห่งนี้จึงทำให้ที่นี่โด่งดังมาไกล บอกเลยว่าหากคุณต้องการชมหินที่สวยงามในเกียวโตที่วัด Ryoanji นี่เป็นตัวเลือกแรกของคุณอย่างแน่นอน

 

วัดนันเซ็นจิ(Nanzenji)

 

 

ที่เที่ยว เกียวโต  วัดนันเซ็นจิ (Nanzenji) ตั้งอยู่เชิงเขาคาชิยามะ แห่งเมืองเกียวโต นั่งเฉยๆ วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดเซนที่สำคัญมากของศาสนาพุทธ เป็นวัดที่มีอาณาบริเวณกว้างมาก ยังเป็นที่ตั้งของวัดอื่นๆ อีกมากมาย อันที่จริง วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 13 โดยจักรพรรดิคาเมยามะ

ซึ่งเดิมทีต้องการสร้างที่อยู่อาศัยเมื่อเขาอายุมากพอที่จะเกษียณ หากต่อมากลายเป็นวัดนันเซ็นจิ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดสงครามในช่วงสมัยมูโรมาจิ อาคารหลายส่วนถูกเผา จนกล่าวได้ว่าเกือบทั้งหมดต้องบูรณะในภายหลังและอาศัยอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน

 

บทความแนะนำ